ดอกดอนญ่าควีนสิริกิติ์ ซึ่งมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ ได้ผสมขึ้นและขอพระราชทานพระราชานุญาตเป็นชื่อดอนญ่าพันธุ์นี้ เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนถ เสด็จฯ เยือนประเทศฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. 2506 ซึ่งได้พระราชทานพระราชนุญาตตั้งชื่อตามพระนามของสมเด็จ เป็นดอกสีชมพู โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น 5 แฉกจึงนำมาผสมผสานกับความเป็นสากลด้วยการนำสีของดอกมาเป็นสีหลักของตัวชุดเพื่อบ่งบอกถึงความสวยงามของดอกดอนญ่า ผสานไปด้วยการตัดเย็บชุดเดรสเกาะอกทรงสอบตัดต่อผ้าทอชาวม้งและผ้าไหมทอมือสีเขียวมิ้นวางลายให้ส่งเสริมสรีระร่างกาย ส่วนบนสวมใส่เสื้อเลียนแบบคอจีนเพิ่มคุณค่าความงามด้วยการปักลายด้วยดิ้น ลูกปัด ปล้องอ้อยลงบนตัวผ้า เพิ่มความสวยงามด้วยดอกไม้จากการปักสะดึงกรึงไหมด้วยการใช้วัสดุที่ทรงคุณค่าและการเลียนแบบการปักดิ้นโบราณผสมผสานลงไปด้วย รูปทรงที่นำมาถอดแบบรูปทรงมาจากดอกดอนญ่าดอกดอนญ่าควีนสิริกิติ์ ซึ่งมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ ได้ผสมขึ้นและขอพระราชทานพระราชานุญาตเป็นชื่อดอนญ่าพันธุ์นี้ เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนถ เสด็จฯ เยือนประเทศฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. 2506 ซึ่งได้พระราชทานพระราชนุญาตตั้งชื่อตามพระนามของสมเด็จ เป็นดอกสีชมพู โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น 5 แฉกจึงนำมาผสมผสานกับความเป็นสากลด้วยการนำสีของดอกมาเป็นสีหลักของตัวชุดเพื่อบ่งบอกถึงความสวยงามของดอกดอนญ่า ผสานไปด้วยการตัดเย็บชุดเดรสเกาะอกทรงสอบตัดต่อผ้าทอชาวม้งและผ้าไหมทอมือสีเขียวมิ้นวางลายให้ส่งเสริมสรีระร่างกาย ส่วนบนสวมใส่เสื้อเลียนแบบคอจีนเพิ่มคุณค่าความงามด้วยการปักลายด้วยดิ้น ลูกปัด ปล้องอ้อยลงบนตัวผ้า เพิ่มความสวยงามด้วยดอกไม้จากการปักสะดึงกรึงไหมด้วยการใช้วัสดุที่ทรงคุณค่าและการเลียนแบบการปักดิ้นโบราณผสมผสานลงไปด้วย รูปทรงที่นำมาถอดแบบรูปทรงมาจากดอกดอนญ่า
ผ้าจากภาคต่าง ๆ ในประเทศไทยที่ใช้
ผ้าไหมพื้นปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา
ผ้าชาติพันธุ์เชียงรายที่ใช้
ผ้าเขียนเทียนม้งจังหวัดเชียงราย