ได้รับเเรงบันดาลจากการแต่งตัวของสาวชาวลั๊วะ นำมาผสมผสานกับการเเต่งกายที่ทันสมัยทำให้เกิดดีไซน์ใหม่ที่น่าสนใจ รวมถึงการนำผ้าซิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ คือซิ่นสีดำมีลายคั่นเป็นแถบสีแดง ชมพู และน้ำเงินแซมขาว เป็นซิ่นที่มัดหมี่ที่เป็นเอกลักษณ์และยังเป็นภูมิปัญญาที่น่าสืบถอดและเผยแพร่สู่สากล และด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้จึงได้นำผ้าซิ่นลั๊วะมาใช้เป็นเป็นผ้าหลัก ในการออกแบบชุดราตรีที่มีเส้นสายโยงใยเหมือนเชื้อสายของชาวลั๊วะที่มีอาศัยในหลายพื้นที่ในภาคเหนือจึงประยุกต์นำสร้อยคอที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างที่สำคัญของชาวลั๊วะ มาใช้ในการออกแบบครั้งนี้ด้วย
ผ้าจากภาคต่าง ๆ ในประเทศไทยที่ใช้
ผ้าย้อมครามลายน้ำไหล บ้านโนนเรือ จังหวัดสกลนคร
ผ้าฝ้ายทอ จังหวัดเชียงใหม่
ผ้าชาติพันธุ์เชียงรายที่ใช้
ผ้าซิ่นมัดหมี่ จากกลุ่มชาติพันธ์ุ ลัวะ